{CUT} Heartless ดวงหทัยไร้รัก ๔๘ (hunhan)





CUT ตอนที่ 49 Heartless {hunhan}










๔๙
ผู้แพ้ที่แท้จริง





ร่างเล็กที่สั่นระริกเปลือยเปล่าปรากฏแกสายตากษัตริย์แห่งซาฟาทันที ผิวเนื้อที่เคยนวลขาวขึ้นสีเรื่อน่ามอง ทว่ายังมีบางจุดที่ยังถูกบดบังเอาไว้ด้วยอาภรณ์ชิ้นเล็กบาง ฮันนาพยายามต่อสู้กับแรงของคนตัวโตกว่าเพื่อปกปิดความน่าอายเหล่านั้นเอาไว้ แต่ก็ดูไม่ได้ผลนัก เพราะแรงอันน้อยนิดของเธอสู้อะไรเขาไม่ได้เลย



“ฝ่าบาททำอย่างนี้หม่อมฉันก็ยิ่งเกลียดฝ่าบาท” สุรเสียงแหบแห้งตะโกนใส่หน้าคนที่อยู่ด้านบนสุดกำลัง พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาหยุดการกระทำอันแสนป่าเถื่อนนี้ แต่นอกจากพระเจ้าเซนจะไม่สะท้านสะเทือนใดๆ แล้ว พระโอษฐ์หยักลึกยังแสยะยิ้มร้ายส่งมากให้องค์หญิงตัวน้อยอีกด้วย



“หึ ฝ่าบาทก็เกลียดหม่อมฉันอยู่แล้วนี่ หม่อมฉันมีอะไรจะเสียไปมากกว่านี้อีกหรือ” สิ้นคำ กลีบปากร้อนก็บดขยี้ความเจ็บแสบลงมาบนเรียวปากอ่อนบาง ลิ้นชื้นพยายามดันดุนเข้าไปในโพรงปากเล็กเพื่อกวาดต้อนทุกความหวาน แต่องค์หญิงฮันนากลับไปยอมเปิดทางให้แก่เขาง่ายๆ



พระหัตถ์หนาย้ายมาบีบสันกรามเล็กอย่างแรงจนฮันนาทนต่อความเจ็บปวดไม่ไหวจึงต้องยอมแพ้และปล่อยให้คนป่าเถื่อนได้ครอบครองในสิ่งที่ต้องการจนได้ ลิ้นที่ช่ำไปด้วยหยาดน้ำไล่เกี่ยวกระหวัดต้อนลิ้นเล็กอย่างบ้าคลั่ง จนฮันนาแทบไม่เหลือช่องว่างเอาไว้ให้หายใจ



ความจุกแน่นแผ่ขึ้นในอกเล็กช้าๆ กลั่นกรองหยาดน้ำตาให้ไหลอออกมาจากดวงเนตรแดงก่ำเป็นทางยาวเพื่อประจานถึงความอ่อนแอไร้ทางสู้ ร่างกายส่วนล่างของเธอยังคงดิ้นอย่างไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาอันเลวร้าย



“หยุดดิ้นเสียที อยากเจ็บตัวไปมากกว่านี้หรือไง” กษัตริย์หนุ่มละจูบอันแสนร้อนดั่งเปลวไฟออกมาเพื่อดุตวาดใส่ร่างน้อยเสียงดัง ด้วยกลัวว่าหากคนตัวเล็กดื้อไปมากกว่านี้เขาจะเผลอทำอะไรที่รุนแรงเข้า



“หม่อมฉันไม่มีวันยอมตกเป็นของฝ่าบาทแน่” ฮันนาตะโกนตอบออกไปสุดเสียง หยาดน้ำใสยังคงไหลลงมาจากดวงตาคู่สวยไม่หยุดหย่อน สร้างความปวดปลาบให้ดวงหฤทัยของกษัตริย์ผู้น่าเกรงขาม ราวกับใครเอาหอมแหลมพุ่งใส่หัวใจจนทะลุ



แต่อย่างไรเสียวันนี้เขาจะไม่มีวันหยุด เขาจะไม่ปล่อยให้ฮันนารอดไปจากเงื้อมือของเขาได้อีกแล้ว เพราะมันอาจจะทำให้เธอโบยบินจากเขาไปตลอดกาล



“หม่อมฉันก็ไม่มีวันปล่อยฝ่าบาทไปเช่นกัน” สุรเสียงสั่นนิดๆ ตรัสลอดไรฟันออกมาอย่างหมดความอดทนใด ก่อนที่พระพักตร์คมจะโน้มลงซุกไซ้ซอกคอขาวระหงขององค์หญิงแห่งบาร์กอย่างไรความปราณี ริมฝีปากร้อนทั้งดูดและขบผิวเนื้อนวลอย่างรุนแรงจนเกิดเป็นร่องรอยสีแดงจางๆ ทิ้งเอาไว้เป็นเครื่องย้ำเตือนว่าหนูน้อยอย่างเธอไม่สามารถรอดไปจากเงื้อมือของราชสีห์อย่างเขาได้



ฮันนาหวีดร้องและดิ้นสุดแรงเกิด มือเรียวทั้งสองข้างที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระทั้งทุบตีและจิกข่วนร่างใหญ่ที่ทาบทับอยู่ด้านบนอย่างสะเปะสะปะเพื่อหาทางเอาตัวรอด โดยที่พระเจ้าเซนไม่ได้ห้ามเธอเลยแม้แต่น้อย จนมือเรียวจิกทึ้งเข้าที่เรือนผมดำขลับพร้อมทั้งออกแรงดึงจนเส้นพระเกศาเหล่านั้นหลุดติดมือมาเป็นกระจุก



แต่เขายังทำเพียงมอบความเจ็บปวดให้เธอต่อไปราวกับไร้ความรู้สึก เล็บยาวย้ายไปจิกและข่วนเข้าที่บาดแผลต้นแขนซึ่งเธอได้ฝากเอาไว้ก่อนหน้านี้จนโลหิตสีแดงฉานไหลซึมออกมาจนชุ่มโชก นั่นทำให้เขาชะงักไปเพียงชั่วอึดใจ ก่อนจะกลับไปลิ้มชิมรสชาติของเรือนกายสาวบริสุทธิ์ของเธอต่ออย่างไม่คิดจะหยุด



“หยุดนะเซน หยุดเดี๋ยวนี้” เมื่อเห็นว่าทำทางไหนก็เหมือนจะหยุดชายหนุ่มเลือดร้อนไมได้ เธอก็กรีดร้องขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเจ็บปวดเจียนจะขาดใจ เธอรู้ดีว่าเธอทำอะไรไว้กับเขาบ้าง แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาล่วงเกินและขืนใจเธอเช่นนี้



ถ้อยคำเหล่านั้นถูกปล่อยให้สลายไปกับอากาศ เพราะนอกจากเซนจะไม่หยุดแล้ว เขายังเคลื่อนกายต่ำลงมาเพื่อลิ้มรสยอดดอกบัวตูมทั้งสองข้างอย่างไรซึ่งความทะนุถนอม ปลายลิ้นร้อนไล่เลียวนเวียอยู่บนนั้น ทำให้ร่างน้อยผวาสั่นสะท้าน



ทั้งหมดทั้งมวลที่คนตัวเล็กประทุษร้ายร่างกายของเขาใช่ว่าเขาไม่เจ็บ แต่ที่เขาไม่ห้ามเธอ ก็เพราะเขาอยากให้ฮันนาได้ลงโทษในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่บ้าง เขารู้ตัวดีทุกอย่างว่าตนเองกำลังกระทำสิ่งใด และผลที่ตามมาจะเป็นแบบไหน แต่เขาจะไม่หยุดแน่ๆ



เขาจะพันธนาการองค์หญิงน้อยใต้ร่างนี้ไว้กับเขาตลอดกาล



เสียงก่นด่าหรือขอร้องให้หยุดถูกกลืนกลับลำคอระหงลงไป มีเพียงเสียงสะอื้นเจียนจะขาดใจเท่านั้นที่ดังขึ้นมาแทนที่ ร่างกายเปลือยเปล่าของหญิงสาวผู้สูงส่งสั่นเทาไปด้วยความหวาดกลัวจับขั้วหัวใจกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น



ยามที่ฟันคมของเขาขบเบาที่ยอดถันสีอ่อนเรื่อของเธอ บังเกิดเป็นความเจ็บสะท้านซ่านไปทั้งทรวงจนแทบอยากจะกั้นลมหายใจแล้วตายไปเสีย มือไม้ของเขาลากไล้สำรวจผ่านไปทั่วทุกตารางร่างกาย ราวกับอยากประทับตราความเป็นเจ้าของ และสลักมันลงในใจที่กำลังจะแตกสลายของเธอ ว่าเขาคือผู้ได้ครอบครองทั้งหมด



ความสงบนิ่งขององค์หญิงตัวน้อยทำให้เซนชะงัก แล้วเงยหน้าขึ้นจ้องมองใบหน้าหวานที่เหยเก้ไปด้วยความเจ็บปวด หยาดน้ำที่เปื้อนไปทั่วปรางใสทำให้ดวงหฤทัยที่เคยคิดว่าว่าแกร่งยิ่งกว่าภูผาสะท้านสะเทือนจนแทบถล่ม ดวงตาที่ฉายแววเจ็บปวดปะปนไปด้วยความเกลียดชังทำให้เขารู้สึกราวกับมีอะไรหนักๆ ฟาดใส่ใบหน้าซ้ำๆ จนมันเจ็บชา



แต่เขาหยุดไม่ได้แล้ว เขาไม่สามารถปล่อยฮันนาไปได้อีกแล้ว ต่อให้ร่างน้อยๆ นี้เป็นเหมือนหนามที่คอนทิ่มตำหัวใจของเขาให้ปวดปลาบทุกครั้งทีได้สัมผัส เขาก็เต็มใจที่จะกอดความทรมานนั้นเอาไว้ เพราะมันคือความสุขเพียงหนึ่งเดียวที่เขามีเช่นกัน



“หม่อมฉันจะไม่รุนแรงกับฝ่าบาทอีก แต่หม่อมฉันจะไม่หยุดหรอกนะ อย่างไรเสียวันนี้ฝ่าบาทก็เป็นของหม่อมฉัน ของหม่อมฉันคนเดียวเท่านั้น” ตรัสจบ ปลายพระนาสิกโด่งเป็นสันก็ไล้เบาๆ ลงที่กลางร่องอกอวบอิ่มแผ่วเบาด้วยความหลงใหลระคนไปด้วยความขมขื่นไม่แพ้คนที่นอนคร่ำครวญอยู่ด้านล่าง



ปลายลิ้นร้อนแลบออกมาลิ้มรสความนุ่มนวลอวบหยุ่นช้าๆ ก่อนจะลากต่ำลงมายังหน้าท้องแบนราบเปลือยเปล่า สะโพกที่ผายคอดรับกับเอวเล็กทำให้กษัตริย์หนุ่มอดไม่ได้ที่จะเคล้นคลึงแผ่วเบาสลับกับหนักหน่วงเมื่อหยุดยั้งความรู้สึกของตนเองไม่อยู่ กลิ่นผิวเนื้อสาวกรุ่นติดอยู่ที่ปลายจมูกของเขาไม่จางหาย



เขาชอบมันเหลือเกิน ชอบจนอยากจะสูดดมไปจนถึงวันที่สิ้นลมหายใจ



เสียงสะอื้นอ่อนเบายังคงดังขึ้นเป็นระยะ ย้ำเตือนจิตใจของชายหนุ่มได้เป็นอย่างดีว่าเขากำลังทำสิ่งใดอยู่ วรองค์ใหญ่โตจึงเคลื่อนขึ้นมอบจุมพิตแผ่วเบาให้แก่องค์หญิงตัวน้อยอีกครั้งเพื่อปิดกลั้นเสียงที่สร้างความเจ็บปวดทรมานเหล่านั้นออกไปจากความรู้สึก



ฮันนายังคงนิ่งงันไม่ตอบสนองใดๆ ราวกับเป็นเพียงรูปปั้นที่มานอนให้เขาเชยชมเท่านั้น ความเย็นชาของเธอทำให้เขารู้สึกหนาวเหน็บและโดดเดี่ยวไปถึงขั้วหัวใจ ก้อนเนื้อในอกราวกับมีใครเอามีดแหลมมากรีดมันซ้ำๆ จนเกิดเป็นบาดแผลฉกาจฉกรรจ์



พระโอษฐ์หยักลึกที่ขบลงบนกลีบปากนุ่มค่อยๆ ขยับแผ่วเบาขึ้นราวกับอยากปลอบประโลมคนตัวเล็กให้หายจากความหวาดกลัว ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด ฮันนาไม่เพียงหวาดกลัวเขาเท่านั้น แต่ยังคงรังเกียจและอาจจะขยะแขยงด้วย



ดวงเนตรคมหลับลงเพื่อระงับความคิดบ้าบอของตัวเองและพยายามฝืนสานต่อสิ่งที่กระทำอยู่ต่อไป เขาจะถือว่านี่เป็นความรักที่เขามอบให้แก่สตรีเพียงผู้เดียวที่สอนให้เขารู้จักอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งความรัก ความเจ็บปวด ความทรมานจากการถูกเกลียดชัง



ฝ่ามือร้อนไล้ขึ้นมากอบกุมทรวงอกนุ่มหยุ่นและประคองมันเอาไว้ด้วยความทะนุถนอม ก่อนจะบีบเคล้นเบาๆ ใบหน้าคมย้ายลงมาปรนเปรอปลายยอดของมันอีกครั้งด้วยลิ้นชื้นทั้งสองข้าง สร้างความรู้สึกซ่านไหวให้แก่องค์หญิงตัวน้อยจนเกินจะทานไหว ความรู้สึกที่เธอไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น แต่ร่างกายของเธอควบคุมมันไม่ได้ อีกทั้งเขายังเป็นคนที่เธอเผลอมอบใจให้ไปแล้วเกินกว่าครึ่ง จึงเป็นการอยากยิ่งที่จะต่อต้าน



คิดได้ดังนั้น น้ำตาของเธอก็ไหลออกมาไม่หยุดหย่อน ทั้งๆ ที่นี่เป็นร่างกายของเธอแต่ทำไมเธอถึงไม่มีสิทธิอะไรสักอย่าง หัวใจก็เช่นกันทำไมถึงต้องลอยไปอยู่กับคนที่ร้ายกาจที่สุดเช่นเขาด้วย



ฮันนาหลุดออกจากภวังค์และสะดุ้งเฮือกยามที่ลิ้นชื้นลากต่ำลงไปจนถึงสะดื้อเล็กกึ่งกลางระหว่างหน้าท้องขาวนวล ความปั่นป่วนมวลขึ้นราวกับมีผีเสื้อนับร้อยพันบินวนอยู่ในนั้น ร่างทั้งร่างเกร็งจัดขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้



“อึก” เธอพยายามปิดกั้นเสียงครวญครางเอาไว้ภายในลำคอ พร้อมกับบิดเร้าสะโพกด้านล่างยามใบหน้าหล่อคมซุกซบดูดกลืนผิวเนื้อหน้าท้องของเธอช้าๆ ความรู้สึกบางอย่างที่เธอไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ตีรวนขึ้นภายในร่างกายอย่างบ้าคลั่งจนต้องหลับตาลงเพื่อระงับมันเอาไว้



และเธอแทบจะลืมวิธีการหายใจเมื่อปลายพระนาสิกโด่งจัดของกษัตริย์หนุ่มเคลื่อนต่ำลงไปยังบริเวณกึ่งกลางกายของเธอ อาภรณ์ชิ้นเล็กที่ยังคงปกปิดส่วนนั้นถูกกระชากออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนเรียวขาของเธอจะหุบเขาหากันเพื่อปกปิดมันเอาไว้ด้วยความอาย



แต่ทว่าจนแล้วจนรอดขาเรียวของเธอก็ถูกบังคับจับแยกออกจากกันอยู่ดี วรกายกำยำขยับนั่งขึ้นแล้วมองสำรวจร่างน้อยไปด้วยความรู้สึกหลายอย่างที่ผสมปนเป ใบหน้าแดงซ่านขององค์หญิงตัวน้อยซึ่งซุกซบอยู่กับผ้าคลุมเตียงที่ยับย่นทำให้เขาเจ็บปวดในหัวใจลึกๆ จนแทบกลั้นหยาดน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่



ฝ่ามือร้อนที่ยังคงบังคับเรียวขาขาวให้แยกออกจากกันยังคงทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเยี่ยม จวบจนเอวแกร่งได้เคลื่อนเข้าไปอยู่กึ่งกลางระหว่างความงดงามกึ่งกายที่น่าหลงใหลได้สำเร็จเขาจึงปลดเปลื้องชุดคลุมสรงน้ำของตนเองออกจากเรือนกายช้าๆ ร่างกายกำยำสมชายชาตินักรบเปิดเปลือยทุกสัดส่วน



ไม่ว่าจะเป็นลาดไหล่หนา ท่อนแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อหนันแน่น แผงอกแข็งแรงซึ่งเต็มไปด้วยบาดแผลจากสงคราม และหน้าท้องที่กระชับเป็นลอยสวยงามรับกับสะโพกสอบ และท่อนขายาว



ความแข็งขืนดุดันของกษัตริย์แห่งซาฟาที่เคลื่อนมาโดนต้นขาอ่อนบางของหญิงสาวทำให้ก้อนเนื้อในอกของเธอหายวูบ ฮันนาหลับตาลงด้วยความหวาดกลัว มือเรียวทั้งสองข้างจิกแน่นเข้ากับผ้าคลุมพระแท่นที่ยับยู่ยี่ไม่เหลือชิ้นดี เพื่อระบายความรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจให้ทุเลาลง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลนัก



ก่อนที่จะได้นึกคิดสิ่งใดไปมากกว่านั้น ความร้อนจัดและใหญ่โตคับแน่นก็ค่อยผนึกลึกเข้ามาในร่างของเธอโดยไม่บอกไม่กล่าว ความเจ็บปวดรวดร้าวราวกับร่างกำลังจะฉีกออกเป็นเสี่ยงๆ ก็ปะทุขึ้นมาในความรู้สึก ร่างน้อยพยายามถอยร่นเพื่อหลีกหนีความรู้สึกราวกับจะขาดใจตายนั่นทันที



ภาพหญิงสาวที่นอนทอดร่างอยู่ตรงหน้า พยายามดิ้นรนอย่างสุดความสามารถทำให้เซนหยุดชะงัก ความคับตึงรัดรึงเขาให้ขยับต่อไปไม่ไหวแล้วเช่นกัน ริมฝีปากนุ่มนวลประทับลงบนเรียวปากบางอ่อนอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ป้อนความหวานปนขมลงไปแผ่วเบาแล้วจึงทวีความร้อนแรงเกินจะต้านทาน ฮันนาเบี่ยงหลบจูบนั้นเป็นพัลวัน แต่ก็สู้แรงของคนที่มีพละกำลังมากกว่าไม่ได้ ทำให้ริมฝีปากเล็กบวมเจ่ออย่างน่าสงสาร



เซนละจูบอันรุนแรงร้อนเร่างออกมาแล้วเคลื่อนปลายลิ้นลงบนซอกคอขาวซึ่งบัดนี้มีร่องรอยที่เขาทิ้งเอาไว้ประดับอยู่หลายจุด ความหอมหวานมอมเมาเขาจนค่อยๆ ขาดสติและดูดกลืนเนื้อนวลด้วยความรุนแรงขึ้น



ความชำนิชำนาญของกษัตริย์หนุ่มทำให้เขาค่อยๆ นำพาอวัยวะที่ร้อนไปด้วยลาวาแห่งรักมุ่งหน้าไปเรื่อยๆ จนเจอเขากับเยื้อขว้างกั้นบางๆ ที่เขารู้ดีว่ามันคือสิ่งใด ความบริสุทธิ์สะอาดของวัยสาว ถ้าเขาผ่านมันไปได้ เขาจะเป็นผู้ที่ได้ครอบครองเธออย่างสมบูรณ์แบบ



“ไม่ว่าฝ่าบาทจะเต็มใจหรือไม่ แต่ยังไงฝ่าบาทก็ต้องเป็นของหม่อมฉัน” เขาครางเสียงต่ำพร้อมทั้งเคลื่อนสะโพกกำยำไปข้างหน้าทันที จนปลายยอดที่แข็งจัดทะลุผ่านเยื้อบางๆ นั้นไปได้สำเร็จ



“อึก” ฮันนาผวาเฮือกไปด้วยความเจ็บปวด ดวงเนตรที่เคยงดงามเบิกกว้าง ในขณะที่กรามเล็กขบกันไว้แน่นเพื่อระบายความรวดร้าวที่เกิดขึ้นกับช่องทางด้านล่างของตนเอง ไม่มีความสุขสมใดๆ ทั้งนั้น มีแต่ความรู้สึกแปลกใหม่และความทรมานผสมปนเปกันอยู่ในความรู้สึก



ยิ่งเมื่อคนด้านบนขยับเขยื้อนกายไปมาช้าๆ เธอยังรู้สึกราวกับร่างๆ ทั้งถูกสูบลงสู่ก้นเหวลึกที่มืดมิดและน่าหวาดกลัว ความรู้สึกเสียวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน วาบขึ้นในวรกายเล็กหลายต่อหลายครั้ง ราวกับร่างกายของเธอกำลังก้าวผ่านความตายนับครั้งไม่ถ้วน โดยมีเขาเป็นผู้จับจูงไป



เสียงครางต่ำแผ่วเบาราวกับต้องระงับตนเองเอาไว้ทุกขณะจิตดังลอดออกมาจากลำคอแกร่งเป็นระยะๆ การที่เธอยังคงเป็นสาวบริสุทธิ์และไม่เคยผ่านชายใดมาก่อนทำให้เขาทั้งสุขสมและทรมานไปพร้อมๆ กัน ความคับแน่นบีบรัดตุบๆ จนเขาแทบจะยั้งตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ที่จะกระทำอย่างรุนแรงเพื่อให้ตัวเองไปถึงสวรรค์อย่างเร็วที่สุด



แต่ความรักความห่วงใยที่มีต่อเธอ ทำให้เขาต้องอดกลั้นมันเอาไว้อย่างสุดความสามารถ เพราะไม่อยากให้เธอเจ็บไปมากกว่านี้ เขากัดฟันแน่นจนรู้สึกปวดกรามไปหมด เหงื่อกาฬผุดพรายออกมาจากผิวหนังไม่หยุดหย่อน



จนเมื่อจุดสูงสุดแห่งอารมณ์เคลื่อนเข้ามาเยือน เขาก็ยับยั้งตัวเองไว้ไม่ไหวอีกต่อไป มือแร่งจับสะโพกลมกึ่งเอาไว้มั่น พร้อมกับกระแทกความเป็นชายเต็มองค์เข้าใส่อย่างแรงหลายต่อหลายครั้ง ร่างทั้งสองร่างสะท้านไหวไปพร้อมๆ กัน พาลให้พระแท่นแข็งแรงสั่นอย่างน่าหวาดเสียว



ความรู้สึกกระสันซ่านแผ่ไปทั้งทุกอณูของร่างกายของคนทั้งสองจากจุดที่เชื่อมไว้ด้วยกัน ฮันนาหลับตาแน่นกลั้นลมหายใจเอาไว้ชั่วอึดใจด้วยความรู้สึกทีผิดบาป หยาดน้ำใสยังคงไหลออกมาจากดวงเนตรงดงามไม่หยุดหย่อน หัวสมองของเธอว่างเปล่าขาวโพลนจนลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองเป็นใครและกำลังกระทำสิ่งใดอยู่



พระเจ้เซนเชิดพระพักตร์ขึ้นเล็กน้อยด้วยความรู้สึกยากจะบรรยาย แม้เขาจะพร่ำบอกตัวเองว่าไม่เสียใจที่ทำแบบนี้ แต่ความรู้สึกร้อนผ่านที่ขอบตาทำให้เขารู้ดีว่าเขาเองก็รู้สึกแย่ไม่แพ้องค์หญิงตัวน้อยเลยสักนิด



กษัตริย์หนุ่มกัดฟันแน่นแล้วขยับสะโพกใส่ร่างน้อยอีกเพียงสองสามครั้ง ความอึดอัดรัดแน่นทุกหยาดหยดก็ถูกปล่อยเอาไว้ในเรือนกายของสตรีอันเป็นที่รัก ความรู้สึกสุมสมปนขมขื่นแล่นพล่านไปทั่วทุกอณูของร่างกายที่กระตุกน้อยๆ พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ร่วงลงมาจากดวงเนตรคมคาย นั่นคือเครื่องย้ำเตือนอย่างดี ว่าเขาไมได้มีความสุขกับสิ่งที่ทำลงไปอย่างแท้จริง



เขาก็เจ็บไม่แพ้ฮันนาเลยสักนิด



พระหัตถ์เรียวยกขึ้นเสยพระเกศาที่ชื้นไปด้วยเหงื่อขึ้น ก่อนวรองค์ใหญ่โตจะทาบทับลงกับเรือนร่างเปลือยเปล่าที่นอนนิ่งสนิท พระโอษฐ์หยักลึกมอบจุมพิตให้แก่องค์หญิงตัวน้อยอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่แปลกออกไป



ความรู้สึกถึงความเป็นผู้ครอบครอง



มือหนาเอื้อมไปลูบเส้นผมนุ่มด้วยความรักใคร่ ก่อนละจูบออกจากริมฝีปากบางอ่อนและประทับจุมพิตไปทั่วใบหน้าซีดเซียวด้วยความหลงใหล การที่เขาได้ครอบครองเธอ มันทำให้เขาไม่รู้สึกอยากจะพอ



วรกายแกร่งขยับคร่อมร่างน้อยอีกครั้ง ก่อนจะลงโทษเธอซ้ำๆ ด้วยบทรักอันแสนร้อนแรงหฤโหด ทำให้ร่างบอบบางสั่นสะท้านครั้งแล้วครั้งเล่า เขาสอนให้เธอได้รู้จักหลายๆ สิ่งที่ไม่เคยได้พบพาน รวมถึงความทุกความทรมานต่อการมีลมหายใจ เธอไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตไร้ค่าเช่นนี้มาก่อนเลย จนกระทั่งวันนี้ วินาทีนี้




แม้กระทั่งความตายยังน่าภิรมย์กว่าการมีชีวิตอยู่เป็นไหนๆ 










ตอนนี้ยังไม่จบนะคะ ยังมีต่อในเว็บค่ะ กลับไปอ่านต่อ จิ้มที่ลิ้งค์ได้เลยน้า


แล้วอย่าลืมคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ ^^

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดวงในรักมาเฟีย บทที่ 19 - NC - CHANBAEK

NC Hunter the series ChanBaek (Ep.12)

{CUT} Dangerous Couple 24