{CUT} The Lost Planet :: ราตรีสิเน่หา
{CUT} The Lost Planet :: ราตรีสิเน่หา
ปลายนิ้วยาวเขี่ยเบาๆ
กับอวัยวะบ่งบอกเพศของเด็กหนุ่มร่างเล็กราวกับจะปลุกมันให้ตื่นขึ้น
ก่อนจะลูบไล้เบาๆ ทำให้แบคฮยอนทนไม่ไหวที่จะครางฮื่อออกมา
“ย่ะ...อย่าเพิ่ง...”
แบคฮยอนเปล่งเสียงออกมาได้เพียงแค่แผ่วเบาเท่านั้น
ก่อนแผ่นหลังเล็กจะเอนพิงอกแกร่งราวกับคนที่อ่อนเปลี้ยไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
ดวงตาคู่หวานปรือนิดๆ อย่างคุมตัวเองไม่อยู่นัก
“ก็ได้
ถ้าเจ้ายังไม่พร้อม แต่เมื่อไปถึงที่ป้อม ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปอีกแล้ว”
ชาร์ลกระซิบด้วยรอยยิ้มร้ายกาจก่อนจะรั้งมือของตัวเองกลับมากอดเด็กน้อยเอาไว้ตามเดิม
กลิ่นกายหอมกรุ่นกับความนุ่มนวลของผิวเนื้อเนียน
ทำให้เขาอดใจไม่ไหวนัก แต่ในเมื่อเจ้าตัวเล็กร้องขอ เขาจึงยอมหยุด ทว่าหลังจากนี้...ต่อให้มีเหตุผลมากมายมาต่อรอง
เขาจะไม่มีวันปล่อยเบลซไปอีกแล้ว
คนตรงหน้านี้ต้องเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว
“ข้าไม่เคยคิดจะต่อต้านท่าน
ข้ารักท่าน แต่เมื่อกี้ข้าแทบไม่มีแรงจะเกร็งตัว กลัวว่าจะตกม้าไปก็เท่านั้น”
แบคฮยอนเอ่ยบอกอย่างอายๆ ด้วยกลัวว่าว่าอีกคนจะคิดไปเอง ว่าตนรังเกียจ
“ข้ารู้
เด็กน้อย” อัศวินหนุ่มก้มจูบเส้นผมนุ่มแผ่วเบาด้วยความเอ็นดู
ก่อนจะควบม้าออกไปให้ไวยิ่งขึ้น เพราะแทบจะอดใจไม่ไหวแล้วที่จะกลืนกินเจ้าตัวน้อยที่ส่งกลิ่นหอมไม่หยุดอยู่ตรงหน้าในระยะประชิด
เมื่อมาถึงป้อมปราการชายแดนอันอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบมานัก
อัศวินหนุ่มก็กระโดดลงมายืนด้านล่าง
พร้อมทั้งรั้งร่างน้อยมาอุ้มไว้แนบอกแล้วพาเดินขึ้นไปยังห้องพักส่วนตัวทันที
เมื่อเข้ามาถึงด้านในก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆ
ท่อนแขนแกร่งวางร่างบอบบางลงบนเตียงกว้างแล้วตามไปคร่อมทับเอาไว้อย่างรวดเร็ว
มือหนาเอื้อมไปปลดกระดุมทุกเม็ดของเจ้าตัวน้อยออกจนเผยให้เห็นแผ่นอกเปลือยเปล่าที่ขาวสะท้อนแสงไฟสีแดงฉานในเตาผิง
“ถอดให้ข้าบ้างสิ”
ชาร์ลเอ่ยเสียงเบา พร้อมทั้งมองใบหน้าหวานด้วยแววตาที่พราวไปด้วยเสน่ห์ ทำให้แบคฮยอนอดไม่ได้ที่จะทำตามคำสั่ง
ร่างน้อยขยับลุกขึ้นมานั่งช้าๆ ทว่ายังไม่ทันที่จะได้เอื้อมมือไปจัดการกับอาภรณ์ของอัศวินตรงหน้า
เสื้อที่ถูกริดกระดุมออกหมดก็ถูกมือใหญ่ร่นไปกองไว้ที่ขอพับแขนกลายเป็นภาพที่ดูเย้ายวนขึ้นอีกเป็นเท่าทวีคูณ
“เจ้าไม่ใช่แค่น่ารักเท่านั้นนะ
ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะน่ากลืนกินมากขนาดนี้” คำพูดเยินยอเหล่านั้นทำให้แบคฮยอนก้มหน้างุด
เพราะไม่กล้าสบสายตาแพรวพราวและอยากกระหายที่จ้องมองลงมา
มือเรียวเอื้อมไปปลดกระดุมเสื้อของอัศวินหนุ่มช้าๆ ไม่เร่งรีบนัก
เพราะกำลังสั่นไปทั้งเนื้อทั้งตัว
สภาพของคนตัวเล็กตอนนี้ไม่ต่างจากเจ้ากระต่ายป่าตัวน้อยที่หลงมาเจอกับราชสีห์หนุ่มผู้น่าเกรงขาม
แม้เจ้ากระต่ายจะน่ารักน่าสงสารเพียงใด แต่สุดท้ายเจ้าป่าผู้ยิ่งใหญ่ก็จะกลืนกินมันเข้าไปอยู่ดี
เมื่อลิดกระดุมออกจากรังทั้งหมดแล้ว
มือที่สั่นเทาก็เอื้อมไปถอดเสื้อออกจากร่างกายกำยำตามแบบฉบับของคนที่ฝึกรบมาแทบจะทั้งชีวิต
หน้าท้องของอัศวินหนุ่มเรียงตัวกับเป็นมัดกล้ามเนื้อสวยแน่น
พาลเส้นเลือดฝอยของแบคฮยอนแตกเปรี๊ยะๆ อย่างไม่ปราณี
แผ่นอกแกร่งหนันแน่นประดับไปด้วยยอดถันสีน้ำตาลเข้มนิดๆ
ทำให้แบคฮยอนไม่กล้าสบมองตรงๆ ได้ เพราะกลัวว่าตนเองจะขาดใจตายไปเสียก่อนกับความบาดใจนี้
ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น
ร่างน้อยก็ถูกยกลอยขึ้นเทินอยู่บนตักแข็งแรง ก่อนที่ปลายลิ้นชำนาญจะแลบออกมาเลียวนปลายยอดสีน้ำตาลอ่อน
แบคฮยอนจึงได้แต่หลับตาเชิดหน้าขึ้นเพื่อระบายความกระสันซ่านที่อีกคนมอบให้
ยิ่งอัศวินหนุ่มเลียรัวและสลับกับดูดยอดอกของเขาแรงเท่าไหร่
เขายิ่งรู้สึกราวกับจะขาดใจตายมากเท่านั้น
เมื่อกลืนกินผิวเนื้อที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกจนพอใจ
ชาร์ลก็วางร่างน้อยให้นอนราบลงกับผืนเตียง ก่อนจะจุมพิตเบาๆ ลงบนสะดือเล็กจุ๋มจิ๋ม
จากนั้นก็กดจูบไปทั่วหน้าท้องขาวเนียน
แบคฮยอนหอบครางเสียงพร่าง
ก่อนจะหลับตาลงแล้วแอ่นโค้งแผ่นหลังไปด้วยความหวาดเสียวอย่างลืมเนื้อลืมตัว
ฟันคมกัดริมฝีปากล่างเอาไว้แน่น เพื่อระบายความรู้สึกมากมายออกไป
แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผลนัก
เพราะยิ่งอัศวินหนุ่มลากปลายจมูกที่พ่นลมหายใจร้อนจัดลงต่ำไปมากเท่าไหร่
แบคฮยอนก็ยิ่งสะท้านวาบไปทั่วทั้งกายมากเท่านั้น
“อึก
อ๊ะ อ่า” เสียงครวญอย่างลืมอายดังขึ้นอีกครั้งยามริมฝีปากหยักอิ่มประทับจูบลงบนอวัยวะกลางกายที่แข็งขืนภายใต้เนื้อผ้า
ราวกับเลือดทั้งหมดในร่างกายกำลังอัดฉีดมาในบริเวณนี้ทำให้รู้สึกคล้ายกับว่ามันกำลังจะระเบิด
ยิ่งฝ่ามืออุ่นร้อนเคลื่อนไปสะกิดเบาๆ ที่ปลายยอดของมัน
แบคฮยอนถึงกับลืมหายใจและบิดเร้าด้วยความทรมาน
สัมผัสวาบหวิวที่ละออกไปอย่างอ้อยอิ่งทำให้เจ้าตัวน้อยอดไม่ได้ที่จะปรือตาขึ้นมอง
อัศวินหนุ่มหล่อกำลังถอดกางเกงที่สวมอยู่ออก
จนเผยให้เห็นอวัยวะกึ่งกลางกายขนาดใหญ่ซึ่งแข็งเขียดเต็มที่
ดวงเนตรคู่เล็กเบิกกว้างขึ้นทันที ก่อนจะหลับปี๋ลงอีกครั้ง
เมื่อร่างกำยำเปลือยเปล่าเคลื่อนทาบลงมาอีกครั้ง
ริมฝีปากหยักอิ่มประทับจูบลงบนกลีบปากเจ่อนิดๆ
ก่อนจะขยับเสียดสีร่างทั้งร่างรวมถึงแก่นกายที่ว่องไวต่อความรู้ให้ถูไถสร้างความแปลกใหม่ให้แก่คนตัวเล็กด้วย
มือหนาคว้าเอาท่อนแขนเรียวที่วางเกร็งไว้ข้างลำตัวขึ้นโอบกอดตนเองเอาไว้
แล้วบรรจงมองงจุมพิตที่แสนเผ็ดร้อนต่อ แบคฮยอนจึงจิกเล็บลงกับแผ่นหลังกว้างแน่นเพื่อระบายความร้อยของไฟสวาทที่ลุกอยู่ในสรรพางค์
ร่างกายที่ทั้งนุ่มและหอมรัญจวนไม่เว้นแม้กระทั่งที่ลับ
ทำให้อัศวินหนุ่มแทบอดใจไม่ไหวที่จะขยำให้จมเขี้ยว
แต่ด้วยความรักที่เขามีอยู่ล้นหัวใจ ทำให้เขาสามาระยั้งตัวเองเอาไว้ได้บ้าง เพียงแค่ร่างกายบดเบียดเสียดสีกันยังทำให้เขาแทบปลดปล่อยออกมามากมายขนาดนี้
แล้วถ้าสอดประสานกันอย่างแนบสนิทเล่า เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาจะคลั่งตายได้มากเท่าไหร่
“เสียวไหม” อัศวินหนุ่มกระซิบถามชิดใบหูเล็ก ก่อนจะใช้ฟันขมเบาๆ
ที่ติ่งหูอ่อนนุ่มว่องไวต่อความรู้สึก
“สะ...เสียว
จนจะขาดใจอยู่แล้ว” สิ้นคำตอบ ร่างสูงก็เคลื่อนต่ำลงช้าๆ โดยไม่ลืมที่จะไล่จูบไปทั่วทั้งเนื้อทั้งตัวนวลเนียนด้วย
จนเมื่อปลายจมูกแตะกับขอบกางเกงซึ่งปดปิดความงดงามล้ำค่าเอาไว้ มือหนาก็เกี่ยวรูดมันออกจากเรียวขาขาวอย่างง่ายดาย
ริมฝีปากอุ่นร้อนก้มลงจูบที่ปลายยอดสั่นหงึกหงักเชื่องช้าละเมียดละไม
ทำให้แบคฮยอนสะดุ้งไปด้วยความซ่านไหวจนต้องหนีบขาเข้าหากัน แต่สุดท้ายก็ถูกแหวกให้แยกกว้างตามเดิมอยู่ดี
“ไม่ต้องเกร็งนะคนดี
ปล่อยตัวตามสบาย” ชาร์ลเอ่ยบอกคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงพร่าพราย ก่อนจะแตะปลายลิ้นลงบนรูเล็กๆ
ที่ปริ่มไปด้วยน้ำขาวบนปลายยอด แล้วชอนไชเบาๆ สร้างความเสียวกรสันจนแบคฮยอนแทบกลั้นหยาดน้ำที่อัดแน่นเอาไว้ไม่อยู่
“ซะ...ซี๊ด
อ๊ะ อึกขะ...ข้ามะไหว อึก แล้ว” เจ้าตัวน้อยดิ้นเร้าๆ
เพราะแก่นกึ่งกลางกายถูกรูดรั้งเนิบนาบด้วยโพรงปากของอัศวินหนุ่ม
เมื่อเคลื่อนขึ้นมาจนเกือบถึงปลายยอด ชายหนุ่มก็ดูดแรงๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะเคลื่อนอมลงไปใหม่อยู่อย่างนั้น
ทำให้แบคฮยอนแทบจะขาดใจ เพราะความทรมานอันสุขสมยากจะบรรยาย
ปลายนิ้วยาวที่ว่างอยู่เริ่มย้ายไปไล้วนที่ช่องทางรักด้านหลังของเด็กหนุ่มผะแผ่ว
ทำให้แบคฮยอนกระตุกเกร็งร่างกายและแดดิ้นอย่างอดรนทนไม่ไหว
ใบหน้าหวานเหยเก้เร้าอารมณ์ของอัศวินที่หนึ่งแห่งนครรัฐได้เป็นอย่างดี ยิ่งยามเขาดันนิ้วมือเข้าไป
ผนังด้านในซึ่งตอดตุบๆ ทำให้เขาหยุดตัวเองไม่ไหวที่จะรังแกร่างกายที่แดงซ่านไปด้วยพิษรักอย่างไม่ปราณี
ชาร์ลคว้ามือเรียวมากอบกุมแก่นอวัยวะอันแข็งจัดของตนเอง
แล้วจับให้รูดขึ้นลงช้าๆ ก่อนจะครางออกมาเสียงกระเส่า แบคฮยอนเหลือบมองการกระทำนั้นและใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขสมของอัศวินหนุ่มเล็กน้อย
ก่อนจะค่อยๆ กำรอบท่อนเอ็นขนาดใหญ่ แล้วจัดการให้เองอย่างไม่นึกรังเกียจใดๆ
“เก่งมาตัวเล็ก
ซี๊ด อย่างนั้น...” อัศวินหนุ่มเอ่ยชมไม่ขาดปาก
พลางเงยหน้าขึ้นแล้วปล่อยเสียงซี๊ดซ้าดออกมา เพราะทนต่อความกระสันซ่านไม่ไหว
ฝ่ามือนุ่มที่กอบกุมหยอกเย้าอย่างไม่ประสานัก ทำให้เขายิ่งอยากจะกระแทกกระทั้นกายใส่เจ้าตัวน้อยให้หัวสั่นหัวคลอน
“พอ..พอแล้ว”
ชาร์ลหยุดมือเล็กที่กำลังพยายามทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีเอาไว้ เพราะเขาแทบจะหยุดยั้งการปลดปล่อยเอาไว้ไม่ไหว
มือหนาจับแท่งร้อนไปจ่อวนที่ช่องทางด้านหลังของคนตัวเล็กอย่างไม่เร่งรีบนัก
ปลายยอดที่ถูไถปากทางด้านนอกช้าๆ
ทำให้แบคฮยอนแทบจะกรีดร้องออกมาด้วยความรู้สึกยากจะบรรยาย
ความเสียวแปลบปลาบแล่นพล่านไปทั่ว
ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
“ข้าจะไม่หยุดอีกแล้ว
ต่อให้เจ้าร้องขอก็ตาม” ชาร์ลเอ่ยเสียงสั่นอย่างอดรนทนไม่ไหว แล้วจึงค่อยๆ
ดันท่อนเอ็นแข็งจัดให้มุดผ่านเข้าไปในช่องทางตอดตุบช้าๆ
เพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะเจ็บ
“อ๊ะ
จะ...เจ็บ” แบคฮยอนรีบถดกายหนีเป็นพัลวัน ทำให้ชาร์ลต้องหยุดการกระทำเอาไว้ ทั้งๆ ที่เอ่ยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะไม่หยุดอีก
แต่ด้วยความรักความห่วงใย แค่ได้เห็นแววตารวดร้าวราวจะขาดใจ เขาก็เห็นแก่ตัวไม่ได้
เพราะเขารักเด็กคนนี้อย่างสุดหัวใจไปแล้ว
“อย่าเกร็งนะคนดี”
มือหนาเอื้อมไปลูบผมนุ่มแผ่วเบา ก่อนจะก้มลงดูดเลียยอดอกเล็กอย่างแรงสร้างความเสียวซ่านให้ก่อเกิดขึ้นอีกครั้ง
เมื่อเห็นแบคฮยอนกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับความรัญจวนที่ด้านบน อัศวินหนุ่มก็ค่อยๆ
ขยับสะโพกดันเคลื่อนไปจนสุดทางอย่างอดทนอดกลั้นที่สุด
ถ้าเป็นคนอื่นเขาจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
แค่ทำให้ตัวเองเสร็จสมอารมณ์หมายไปก็เป็นอันพอ
ต่อให้คู่นอนจะร้องขอหรืออ้อนวอนเพียงใดเขาก็ไม่ใส่ใจ
แต่เด็กตรงหน้านี้ไม่ใช่เพียงแค่คนที่เขาจะนอนกกกอดเพียงแค่ชั่วค่ำนี้
ทว่าจะเป็นคนที่เขาโหยหาที่จะให้อยู่ข้างกายตลอดไป เขาจึงต้องทะนุถนอมเจ้าตัวไว้ให้ดีที่สุดเท่าที่คนห่ามๆ
คนหนึ่งจะกระทำได้
ในที่สุดชาร์ลก็สามารถสอดประสานอวัยวะของตนเองเข้าไปในกายของร่างเล็กได้จนหมด
อัศวินหนุ่มแช่ค้างไว้อย่างนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกเข้าออกช้าๆ
ก่อนจะทวีความเร็วและแรงขึ้นตามลำดับ
เสียงเนื้อกระทบกันพั่บๆ
ดังก้องห้องนอนกว้างระคนกับเสียงครางแหบแห้งของคนทั้งสองที่ช่วยกันกระแทกกายประสานเพื่อนำพากันไปถึงฝั่งฝันให้เร็วที่สุด
แบคฮยอนเกี่ยวท่อนขาเรียวเอาไว้กับเอวแกร่ง แล้วจิกมือแน่นกับท่อนแขนกำยำเพื่อระบายความรัญจวนที่ค่อยๆ
ทวีความรุนแรงไม่หยุดหย่อน
ใบหน้าหวานซุกลงกับหมอนแล้วครวญครางด้วยความทรมานไม่หยุด
เส้นผมดำขลับแผ่กระจายไปด้วยแรงส่งจากอัศวินหนุ่มที่คึกราวกับม้าศึก
ไอของความร้อนจากเตาผิงไม่สามารถเทียบเท่าความเร่าร้อนของกายแกร่งได้
ชาร์ลกัดฟันแน่นแล้วสอดกระทั้นบั้นเอวแรงไปอีกไม่กี่อึดใจ
หยาดน้ำทุกหยดที่อัดแน่นก็ระเบิดฉีดเข้าใส่ช่องทางด้านหลังของคนตัวเล็กจนหมดสิ้น
เป็นเวลาเดียวกันกับที่ท่อนเอ็นของแบคฮยอนได้ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเปรอะเปื้อนเต็มหน้าท้องกำยำของอัศวินหนุ่ม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น