{CUT} Heartless ดวงหทัยไร้รัก ๖๐ (hunhan)
๖๐
พันธนาการ
ริมฝีปากหยักลึกลากต่ำลงมาเรื่อยๆ
จนถึงไห้ปลาร้าสวยได้รูปขององค์หญิงแห่งบาร์ก ลิ้นชื้นไล่เลียไปบนนั้นแผ่วเบา
พร้อมทั้งปล่อยลมหายใจอุ่นร้อนรินรดผิวกายนวลเนียน
สร้างความหวิวหวามให้แผ่ซ่านไปทั่วทั้งสรรพางค์น้อยๆ ได้เป็นอย่างดี
เนื้อผ้าบางเบาของชุดยาวที่เป็นปราการขว้างกั้นความงดงามอรชรเอาไว้
ทำให้กษัตริย์หนุ่มละวรกายออกมา แล้วเอื้อมมือไปปลดริดกระดุมเล็กๆ
ที่ด้ายหลังชุดนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะค่อยๆ ดึงร่นมันลงมาจนเผยให้เห็นเนินอกอวบอิ่มเต่งตึง
ยามที่ปลายจมูกได้โน้มลงไปคลอเคลียบนความนุ่มหยุ่นขาวบริสุทธิ์นั้น
กลิ่นหอมรัญจวนของผิวเนื้อสาวทำให้เขาแทบคลั่ง เลือดลมในกายกำลังพลุ่งพล่านอย่างหนักหน่วงด้วยความรู้สึกกำหนัด
อวัยวะกึ่งกายลำตัวค่อยๆ คับพองขึ้นจนเต็มฉลองพระองค์กางเกงที่สวมใส่อยู่
ฮันนาสะดุ้งนิดๆเมื่อความว่างเปล่าเย็นเยียบพัดมาปะทะกายกึ่งเปลื่อยของคนเอง
ก่อนที่ปลายลิ้นสากลากเลียไปบนยอดอกของเธอซ้ำๆ อย่างหยอกเย้า สร้างความรู้สึกแปลกใหม่จนเธอต้องเผลอกลั้นลมหายใจเอาไว้ด้วยความซ่านเสียว
เสียงครางผะแผ่วครวญออกมาจากพระโอษฐ์บางอิ่มไม่ขาดสาย
พระหัตถ์เรียวจิกแน่นลงกับเรือนผมของกษัตริย์หนุ่ม ก่อนจะออกแรงกดใบหน้าของเขาลงมาเพื่อให้ปรนเปรอเธอหนักหน่วงยิ่งขึ้น
ร่างกายของเธอกำลังต้องการเขายิ่งกว่าสิ่งใดในโลกใบนี้ ความผิดชอบชั่วดีที่เธอคิดและใช้เตือนใจเอาไว้มากมาย
ถูกปลดเปลื้องและปล่อยให้หลุดลอยหายไปกับอากาศ
โลกของเธอพลันเปลี่ยนไปเมื่อพระโอษฐ์ร้อนเม้มดูดเบาๆ สลับที่ปลายยอดถันทั้งสองข้าง
คล้ายกับมีกระแสไฟฟ้าวูบวาบวิ่งพล่านมารวมกันอยู่ ณ ที่ตรงนั้น
ทำให้ร่างของเธอเกร็งจัดจนต้องแอ่นรับสัมผัสจากเขามากยิ่งขึ้น
พระพักตร์หวานหงายขึ้นพร้อมกับครางลอดไรฟัน อย่างอดกลั้นด้วยความขลาดอาย
ก่อนวรองค์เล็กจะขยับเบาๆ เพื่อบิดเร้าร่างกายเมื่อทนต่อความรู้สึกหวิวหวามที่ก่อก่อราวกับพายุไม่ไหว
ยิ่งร่างเสียดสีกับคนด้านบนมากเท่าไหร่
ยิ่งรู้สึกแทบจะขาดอากาศหายใจตายมากเท่านั้น
เมื่อรับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นของคนตัวเล็ก
พระเจ้าเซนก็ยิ่งย่ามใจ
ฝ่ามือร้อนไปด้วยไฟราคะลูบไล้จากต้นขาเรียวขึ้นมาจนถึงก้นกลมกลึงก่อนจะบีบเคล้นอย่างยับยั้งความดิบเถื่อนของตัวเองเอาไว้
เพราะกลัวว่าฮันนาจะเจ็บ จากนั้นก็เคลื่อนขึ้นมาลูบไล้หน้าท้องแบนราบแผ่วเบา
จนร่างน้อยสะดุ้งไหวหดเกร็งกล้ามเนื้อรับอย่างไม่ทันตั้งตัวนัก
“อ๊ะ อ่า” ท่อนขาเรียวชันขึ้นเมื่อวรองค์กำยำขยับสอดกายลงมาอยู่กึ่งกลางระหว่างมัน
ในขณะที่พระโอษฐ์หยักลึกก็สลับดูดกลืนเม็ดบัวสีอ่อนทั้งสองข้างด้วยความหลงใหล
ความขาวบริสุทธิ์และนุ่มนวลของมันทำให้เขาไม่อาจะตัดใจผละออกมาได้สักวินาที
แต่ทว่าสะโพกกลมมนที่ขยับเสียดสีด้วยความร้อนเร่า ทำให้เขารู้ว่าฮันนาเริ่มทนฤทธิ์ของเปลวไฟแห่งความใคร่ไม่ไหวแล้ว
ปลายจมูกคมจึงลากต่ำลงมาที่หน้าท้องแบนราบอย่างช้าๆ
ก่อนไล้วนรอบสะดือเล็กอย่างอ้อยอิ่ง จนองค์หญิงแห่งบาร์กต้องเกร็งเอวรับความกระสันนั้นอย่างไม่รู้ประสานัก
ฝ่าพระหัตถ์ที่เคยเคล้นคลึงสะโพกมนย้ายไปยังจุดกึ่งกลางระหว่างกายของร่างน้อยที่อยู่ภายใต้อาภรณ์ชิ้นยาวอย่างรวดเร็ว
ก่อนจะบดขยี้นิ้วพระหัตถ์ลงไปอย่างหนักหน่วง
ฮันนาผวาเฮือกขึ้นกอดร่างกำยำเอาไว้ทันทีด้วยความรู้สึกเสียวเกินจะบรรยาย คล้ายกับร่างทั้งร่างถูกเหวี่ยงขึ้นไปบนสวรรค์ชั้นฟ้า
หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะระเบิด รู้สึกร้อนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“อึก ฝ่าบาท อ๊ะ”
คนตัวเล็กเผลอครางออกมาเสียงดังยามปลายนิ้วยาวเกี่ยวเข้ากับจุดที่ว่องไวต่อความรู้สึก
พระทนต์ขาวขบริมฝีปากล่างอันบอบบางเอาไว้
แล้วหลับตาลงแน่นด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย
เธอรู้เพียงว่าตอนนี้เธอกำลังจะตายด้วยมือของเขา
ความรู้สึกเย็นวาบพัดมาปะทะวรองค์น้อย ทำให้ฮันนาเผลอลืมตาขึ้น
เธอจึงรู้ว่าอาภรณ์ที่ใช้ปกปิดร่างกายอันงดงามเอาไว้ได้หลุดออกไปเสียแล้ว
ในขณะที่กษัตริย์หนุ่มแห่งซาฟากำลังจ้องเธอด้วยสายตาราวกับจะกลืนกินเข้าไป
นั่นยิ่งสร้างความรู้สึกกระหายบางอย่างให้ลุกโชนขึ้นในจิตใจ
เธออย่างเป็นของเขา...ด้วยความเต็มใจ
ดวงเนตรหวานซึ้งแปรเปลี่ยนเป็นเย้ายวนในชั่วพริบตา
ก่อนจะรั้งวรองค์แข็งแรงลงมาจูบด้วยความเร่าร้อนหนักหน่วง ลิ้นทั้งสองเกี่ยวพันกันจนเกิดเสียงดังก้องไปทั่วทั้งห้องบรรทมกว้าง
พระหัตถ์เล็กประคองใบหน้าของชายหนุ่มเอาไว้
แล้วบดจูบอันแสนเผ็ดร้อนลงไปในความรู้สึก
นิ้วพระหัตถ์ยาวของกษัตริย์หนุ่มกลับไปยุ่มย่ามที่ช่องทางรักอันแสนยวนตายวนใจอีกครั้ง
ปลายยอดของมันค่อยๆ มุดผ่านเข้าไปในความอุ่นร้อนตอดรัดนั่นเบาๆ อย่างไม่เร่งรีบ
ทำให้ฮันนาเผลอลืมหายใจไปทั่ววินาที สะโหกผายคอดบิดเร้าเพราะรู้เจ็บนิดๆ
ปะปนไปกับความซ่านไหว
“เจ็บนิดเดียวเท่านั้นที่รัก” กษัตริย์หนุ่มกระซิบบอกเสียงพร่าพราย
ก่อนจะใช้เรียวลิ้นชำนาญไล่เลียไปที่ใบหูเล็กๆ ของเธออย่างหยอกเย้า
เมื่อนิ้วอันแสนซุกซนนั้นเคลื่อนเข้าไปจนสุดเขาก็ค่อยๆ ขยับมันเข้าออกจากช่องทางนั้นช้าๆ
“อ๊ะ” ฮันนาครางผะแผ่ว ก่อนจะหลับตาลงด้วยความกระสันอยาก
ดวงเนตรหวานแดงก่ำไปด้วยแรงอารมณ์ที่กำลังลุกโหมอย่างบ้าคลั่ง เธอแอ่นเนินอกอวบหยุ่นป้อนใส่ปากของเขาด้วยความเร่าร้อน
พร้อมกับครวญครางออกมาอย่างลืมอาย
กษัตริย์หนุ่มปรนเปรอให้เธออย่างไม่รู้เบื่อ จนเมื่อเห็นว่าร่างกายของเธอเริ่มพร้อม
จึงค่อยๆ ถดดึงเอานิ้วออกมามาจากร่างน้อยอย่างไม่เร่งรีบ พระพักตร์คมถดลงอยู่กึ่งกลางระหว่างเรียวขาทั้งสองข้าง
จนทอดเนตรเห็นอวัยวะอันแสนงดงามขององค์หญิงที่แสนรักได้ถนัดถนี่ หยาดน้ำแห่งความสุขสมเยิ้มออกมาจากช่องทางนั้นจนเปียกที่นอน
ทำให้เขารู้ว่าเธอกำลังต้องการเขามากแค่ไหน ปลายลิ้นสากคายแทรกเข้าสู่เรือนกายบอบบางช้าๆ
ทำเอาฮันนาสะดุ้งสุดตัวด้วยความเสียวเกินจะบรรยาย
รู้สึกราวกับร่างของเธอถูกเหวี่ยงขึ้นสู่ท้องนภาอันแสนไกล
องค์หญิงแห่งบาร์กชะโงกมองสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังกระทำด้วยหัวใจที่สั่นระรัวจนแทนจะกระเด็นออกมาข้างนอก
ภาพพระพักตร์ที่ซุกแน่นอยู่กับส่วนแสดงความเป็นสตรีของเธอสร้างความรู้สึกเร่าร้อนได้อีกเป็นเท่าทวีคูณ
ยามที่ความสากระคายลากผ่านปากทางรักสีหวานเอวเล็กก็แทบจะขยับตามไปด้วยความกระสันซ่าน
หยาดน้ำฉ่ำไหลซึมออกมาจากช่องทางสวรรค์ขององค์หญิงตัวน้อยไม่ขาดสาย
แต่ก็ถูกกษัตริย์หนุ่มดูดกลืนเข้าไปจนหมด
รสชาติของมันทำให้เขารู้ว่าคนตัวเล็กตรงหน้านี้สะอาดสะอ้านมากเพียงใด
“อื้อ หม่อมฉัน...มะ” ยิ่งเขารัวลิ้นใส่จุดกึ่งกลางกายของเธอหนักหน่วงมากเท่าไหร่
หัวจิตหัวใจของเธอก็แทบจะขาดมากเท่านั้น ดวงหน้าหวานเหยเก้ด้วยความเสียวไปทั้งเนื้อทั้งตัว
ในขณะที่มือเรียวก็จิกแน่นลงหับผ้าคลุมพระบรรทมที่พาดทับเอาไว้กับเตียงกว้าง
ได้ยินดังนั้นเซนก็จัดการกับความหอมหวานขององค์หญิงแห่งบาร์กอย่างไม่ปราณีอีกต่อไป
พระหัตถ์หนาจับเรียวขาทั้งสองข้างให้แยกออกจากกัน
แล้วละเลงเรียวลิ้นเพื่อจุดประกายไฟแห่งความร้อนรัญจวนลงไปอย่างบ้าคลั่ง
จนร่างน้อยสั่นสะท้านครวญครางออกมาไม่เป็นภาษา
“อื้อ อ๊ะ อ๊า” ความขลาดอายทั้งหมดทั้งมวลถูกความหวิววาบวูบวาบพัดกระหน่ำให้เหือดหายไป
ทิ้งไว้เพียงสุรเสียงที่แสดงชัดถึงความทรมานแต่ทว่าสุขสมในคราวเดียวกัน
ฮันนากระตุกน้อยๆ เมื่อคนตัวโตจับจูงเธอขึ้นไปบนสรวงสวรรค์ แล้วเหวี่ยงเขาไปมาอย่างบ้าคลั่ง
ความรู้สึกราวกับกำลังจะหายใจไม่ทันและซ่านกระสันวิ่งปราดไปทั่วทั้งร่างของเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
และเมื่อความรู้สึกเหล่านั้นคลายลง เธอก็หอบหายใจถี่กระชั้นด้วยความเหน็ดเหนื่อย
เซนทิ้งกายทาบลงมาบนผิวเนื้อนวล
ก่อนจะมอบจุมพิตอันแสนเผ็ดร้อนให้แก่ฮันนาอีกครั้ง
กลิ่นและรสชาติร่างกายของเธอยังติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเขาไม่จางหาย
ฝ่าพระหัตถ์เรียวอุ่นเคลื่อนมาโอบรัดร่างกำยำเอาไว้ แล้วลูบไล้เบาๆ ไปบนแผ่นหลังแกร่งซึ่งยังคงมีเนื้อผ้าขวางกั้นอยู่
องค์หญิงตัวน้อยรู้สึกรำคาญมันจนอดไมได้ที่จะย้ายมือเรียวมาปลดกระดุมเสื้อของกษัตริย์หนุ่มออก
เมื่อลูกกระดุมทั้งหมดหลุดจากรัง เธอก็ดันร่างเขาห่างเล็กน้อยและละจูบออกจากกัน
ก่อนจะรั้งเสื้ออกจากไหล่แข็งแรงของเขาเป็นพัลวัน
และพระเจ้าเซนก็ยอมตามใจเธออย่างง่ายดายด้วยกระสลัดฉลองพระองค์นั้นออกจากวรกายไป
แผ่นพระอุระหนันแน่นไปด้วยมัดกล้ามเนื้ออันแสนคุ้นเคยปรากฏแก่สายตาขององค์หญิงแห่งบาร์กทันที
ก่อนที่ร่างอันแสนอบอุ่นจะทาบทับแนบสนิทลงมาอีกครั้ง
แล้วเริ่มปรนเปรอเธอด้วยความเร่าร้อน
ฮันนาจิกมือไปบนแผ่นหลังอันเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งสงครามอย่างไม่นึกรังเกียจ
ก่อนจะเคลื่อนต่ำไปยังเอวแกร่งแล้วลูบไล้อย่างสนุกมือ ร่างกายทั้งสองขยับเสียดสีกันไปทุกสัดส่วน
พาลให้ความรู้สึกทรมานทวีขึ้นอย่างรวดเร็ว ความแข็งขืนที่กึ่งกลางวรกายชาย
ถูไถแผ่วเบาเข้ากับเนินสวาทขององค์หญิงตัวน้อย จนเธอเผลอครางออกมาเสียงดัง
พร้อมทั้งจิกครูดเล็บลงบนเอวของเขาอย่างไม่ปราณี
ยิ่งปลายลิ้นร้อนลากผ่านกลางร่องอกของเธอลงมาช้าๆ เธอยิ่งอดรนทนไม่ไหว
ดวงเนตรหวานหลับแน่นอย่างไม่รู้จะทำสิ่งใด
ทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังวิ่งวนอยู่ในกายของเธอเร่งเร้ารุนแรงเหลือเกิน
“ฝ่าบาท...หม่อมฉะ...ฉัน ทรมานเหลือเกินเพคะ” เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงติดขัด
ทำให้กษัตริย์หนุ่มขยับกายออกมาแล้วปลดเปลื้องเอากางเกงที่ยังคงสวมอยู่บนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
ท่อนอวัยวะที่แข็งจัดจนแทบจะระเบิดปรากฏแก่สายตาขององค์หญิงตัวน้อยทันที
ดวงเนตรหวานเบิกนิดๆ ก่อนจะนิ่งค้างไปด้วยความรู้สึกประหวั่น
เธอเข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใดครั้งที่แล้วเธอจึงรู้สึกราวกับร่างจะแตกแยกออกเป็นเสี่ยงๆ
ก็พระคุยหฐานของเขาช่างใหญ่โตถึงเพียงนี้
“อย่าเกร็งนะ ฝ่าบาทต้องเจ็บแน่ๆ” เขาเอ่ยบอกด้วยท่าทางเป็นห่วงเป็นใย
ดวงเนตรคมคายฉายแววลังเลใจอยู่แวบหนึ่ง ก่อนเขาจะนำเอาความแข็งขืนนั้นมาจ่อเอาไว้ที่ช่องทางรักของเธอ
ดวงตาคู่หวานสบมองแววตาที่แสนห่วงใยใคร่ขออนุญาตและขอโทษขอโพยจากเขา ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
เป็นการยินยอม
ความรู้สึกมากมายประเดประดังเข้ามาทันที
หลังจากที่ทั้งหมดทั้งมวลหายออกไปจากจิตสำนึกของเธอช่วงหนึ่ง แต่กระนั้นเธอจะยอมรับมัน
เธอเป็นคนที่กล้าทำและกล้ารับผลที่จะตามมาอยู่เสมอ
และเธอรู้ดีว่าผลของการกระทำของตัวเองครั้งนี้จะเป็นเช่นไร
ตอนนี้เธอได้พันธนาการเขาไว้ในหัวใจของเธอแล้ว
และพันธนาการนี้ยังแน่นหนายิ่งกว่าปราการใดๆ ต่อแต่นี้ไป เธอจะไม่มีวันลืมเขาและปล่อยให้ใครมาอยู่ในจุดที่เขากำลังอยู่ได้อีกเลย
เขาจะเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับสิ่งที่นี้ไปจากเธอ…
...ความรัก
โดยที่เธอไม่คิดเสียใจและเสียดายเลยแม้แต่น้อย
หยาดน้ำหยดหนึ่งร่วงหล่นลงจากดวงเนตรคู่สวยในขณะที่กายแกร่งของกษัตริย์หนุ่มสอดประสานเข้ามาอย่างเชื่องช้าและทะนุถนอมด้วยกลัวว่าจะทำให้วรองค์บางผมบอบช้ำ
ฮันนาสะอื้นผะแผ่ว พร้อมกับกลั้นเสียงครางเอาไว้
“ร้องไห้ทำไม กลัวหรือ” เซนรีบหยุดยั้งการกระทำของตัวเอง
พลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงติดกังวล
เพราะกลัวว่าตัวเองจะทำให้คนที่รักยิ่งกว่าดวงใจเจ็บปวด
ฮันนาไม่เอ่ยตอบ แต่พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้อย่างสุดกำลัง
ความรู้สึกเธอในยามนี้ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
ความเจ็บปวดที่อัดแน่นอยู่ในใจกำลังจะถูกปลดเปลื้องออกและแปรเปลี่ยนเป็นพันธนาการรักยึดเหนี่ยวเธอและเขาเอาไว้แทน
“ไม่ร้องนะฮันนา หม่อมฉันไม่ทำแล้ว อย่างร้องนะ” เมื่อเห็นองค์หญิงตัวน้อยไม่ตรัสตอบ
เขาก็เขาใจว่าเธอไม่ต้องการสานต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
วรกายแข็งแรงขยับเคลื่อนออกมาจากร่างน้อยด้วยความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ แต่เขาสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่บังคับขืนใจหรือรังแกเธออีก
เขาจึงต้องจำใจข่มความต้องการของตัวเองเอาไว้อย่างสุดกำลัง
เมื่ออวัยวะกึ่งกลางวรกายของกษัตริย์หนุ่มเคลื่อนคลาดออกไป ฮันนาก็ส่ายศีรษะไปมาเพื่อปฏิเสธในสิ่งที่เขากำลังจะทำ
เธอไม่ได้รังเกียจเขา
เพียงแต่เธออดตื้นตันและซาบซึ้งในสิ่งที่เขาทำให้เธอไม่ได้ก็เท่านั้นจึงร้องไห้ออกมา
แต่ความจริงแล้วเธอกำลังต้องการเขามากมายเหลือเกิน
วรองค์น้อยรีบลุกนั่งแล้วขยับกายไปขวางกษัตริย์แห่งซาฟาเอาไว้
ดวงเนตรชดช้อยจ้องสบพระพักตร์คมด้วยแววเว้าวอน ก่อนจะยกสะโพกอวบอิ่มขึ้นคร่อมหน้าตักอันแสนกำยำสมชายชาตินักรบของเขา
ก่อนจะกดจูบแผ่วเบาลงบนซอกคอลามมาถึงลาดไหล่แข็งแรงในแบบที่เขาเคยทำกับเธอก่อนหน้านี้
ผืนเตียงนุ่มกำลังจะลุกเป็นไฟด้วยเพลิงรักอันเร่าร้อน เมื่อฝ่าพระหัตถ์ที่มักจะหยาบกระด้างอยู่เป็นนิด
เคลื่อนไปขยำยอดอกอวบด้วยความรักใคร่และเสน่หา พร้อมทั้งเริ่มบรรเลงเพลงรักอันแสนหวิวหวามขึ้นด้วยกันอีกครา
องค์หญิงตัวเล็กกัดริมพระโอษฐ์อย่างชั่งใจชั่ววินาที
ก่อนพระหัตถ์น้อยๆ
จะเอื้อมไปจับจุดกึ่งกลางอันแข็งจัดของกษัตริย์หนุ่มแล้วน้ำมาจ่อที่ช่องทางคับแคบของตนเอง
จากนั้นวรองค์บอบบางก็ค่อยๆ กดต่ำลงช้าๆ ด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย
ความเจ็บซ่านพล่านไปทั่วทุกโสตประสาทรับรู้ แต่เธอก็กัดฟันอดทนมันเอาไว้
มือหนาที่เคลื่อนมากอบกุมสะโพกของเธอแผ่วเบา ทำให้หัวใจดวงน้อยอุ่นวาบ
ดวงตาที่ฉ่ำไปด้วยความหยาดเยิ้มจ้องมองดวงเนตรคมคายแพรวพราวด้วยความสั่นไหว แล้วป้อนจูบหนักหน่วงให้แก่เขาอีกครั้ง
ลิ้นเรียวอาจหาญลุกล้ำเข้าไปในโพรงปากของกษัตริย์หนุ่มแล้วไล่ต้อนเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นร้อนอันแสนชำนาญอย่างไม่เกรงกลัว
ก่อนจะละออกมาอย่างรวดเร็วเมื่อความเจ็บซ่านที่ด้านล่างทำให้เธอต้องร้องครวญด้วยความทรมาน
“อึก อ๊ะ”
“ใจเย็นๆ คนดีของหม่อมฉัน ไม่ต้องรีบนะ” สุรเสียงทุ่มพร่าเอ่ยบอก
พร้อมทั้งกดสะโพกนุ่มให้แช่ไว้อย่างนั้นสักพัก
เพื่อให้ร่างกายของเธอชินและพร้อมต่อเขามากกว่านี้ ผนังที่ตอดรัดตุบๆ ทำให้เขาแทบอดไม่ไหวที่จะปลดปล่อยความอึดอัดออกมา
แต่เขาก็กัดฟันทนเอาไว้เพื่อที่จะได้ถึงเส้นชัยไปพร้อมๆ กับเธอ
เมื่อฮันนาผ่อนความเกร็งลง ฝ่ามืออุ่นก็คลายแรงกดเช่นกันและปล่อยให้เจ้าตัวน้อยเป็นฝ่ายนำพาเขาเอง
ร่างนุ่มนวลที่ไม่ประสีประสาในด้านนี้นักขยับขึ้นลงช้าๆ ในทีแรก
แต่เมื่อความรู้สึกหวิวหวามเริ่มแผ่มาเกาะกินทั่วสรรพางค์กาย แรงกระแทกก็ค่อยๆ
ทวีความเร็วและแรงยิ่งขึ้น
ฝ่ามือเรียวยกขึ้นขยำขยี้ยอดประทุมถันอันอวบตึงของตัวเองด้วยความร้อนเร่า
เป็นภาพที่ทำให้ชายหนุ่มใช้ลิ้นชื้นแลบเลียพระโอษฐ์หยักลึกซ้ำๆ
ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอด้วยความกระหาย
เสียงครางด้วยความรัญจวนดังประสานกับเสียงหอบสะท้านแผ่วเบา
องค์หญิงตัวน้อยเชิดปลายคางขึ้น แล้วกัดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้ด้วยท่าทางเย้ายวน
ทำให้เซนอดไมที่จะเอื้อมมือไปลูบไล้ต้นขาขาวเนียนด้วยอย่างหนักหน่วง
กษัตริย์หนุ่มที่ยอมปล่อยให้องค์หญิงตัวน้อยเป็นคนนำพาขึ้นสู่สรวงสวรรค์ครางฮึมฮำอยู่ในลำคอด้วยความเสียวเกินจะบรรยาย
จนเมื่อรู้สึกว่าทนไม่ไหวอีกต่อไป พระหัตถ์แกร่งก็จับพลิกร่างอรชรให้นอนลงแล้วเป็นฝ่ายสานต่อเพลงรักอันเร่าร้อนนั้นเสียเอง
ความรัวเร็วและรุนแรงของนักรบผู้เจนจัดในทุกสนาม
ทำให้ร่างน้อยสะท้านสะเทือนไปทั่งร่าง เสียงครางยังคงหลุดลอดออกมาไม่ขาดปาก
ยิ่งเข้าใกล้กึ่งกลางระหว่างความเป็นและความตายน้อยๆ มากขึ้นเท่าไหร่
ฮันนาก็หวามในหัวใจจนแทบคลั่ง
วรองค์ท่อนล่างที่กำลังเปลือยเปล่ากระแทกสวนกลับกษัตริย์หนุ่มอย่างไม่ยอมแพ้
เพื่อที่จะวิ่งเข้าเส้นชัยได้เร็วยิ่งขึ้น ใช้เวลาอีกเพียงชั่วลมหายใจเฮือกเดียว
หยาดน้ำอุ่นจัดก็ฉีดเข้าใส่ช่องทางคับแคบของเธออย่างแรง จนร่างทั้งร่างกระตุกและเป็นเวลาเดียวกันกับความรู้สึกของเธอสว่างวาบ
มือและเท้าเกร็งจัดไปด้วยความกระสันซ่านซึ่งบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้
หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะขาดอยู่รอมร่อ
ความรู้สึกรักและเป็นเจ้าข้าวเจ้าของพลุ่งพล่านอยู่ในมโนสำนึกของเธอไม่หยุดหย่อน
“เซนของหม่อมฉัน” ฝ่าพระหัตถ์เรียวยกขึ้นลูบไล้ข้างแก้มที่ชื้นไปด้วยเหงื่อของกษัตริย์หนุ่มแผ่วเบา
ก่อนที่วรกายใหญ่โตจะเอนนอนลงมาเคียงข้าง แล้วรั้งร่างน้อยมากอดไว้จนแทบจมเข้าไปในอก
พระโอษฐ์หยักลึกอบอุ่นกดจูบเบาๆ บนเรือนผมนุ่มด้วยความรักสุดหัวใจ
“เหนื่อยไหม” เขาเอ่ยถาม
พลางจ้องมองด้วยหน้าที่แดงซ่านและชื้นไปด้วยเหงื่อด้วยแววตารู้สึกผิด
ด้วยกลัวว่าเขาจะรังแกเธอรุนแรงเกินไปหรือเปล่า
“แทบจะขาดใจเลยเพคะ” ฮันนาเอ่ยตอบเสียงเบา ก่อนจะขยับร่างเข้าสู่อ้อมกอดของเขาแน่นขึ้น
แล้วเอื้อมแขนเล็กบางไปโอบรอบเอวของเขาไว้บ้าง
“หม่อมฉันขอโทษถ้าทำให้ฝ่าบาทรู้สึกเจ็บ” พระเจ้าเซนตรัสแผ่วเบา
พร้อมทั้งกระชับกอดร่างน้อยเอาไว้แน่นด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
แต่ถ้อยคำต่อมาที่เธอใช้เอ่ยกับเขา กลับทำให้ดวงหฤทัยอันกล้าแกร่งกระตุกไหวสะเทือนเลื่อนลั่นราวกับภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิด…
“ไม่เพคะ หม่อมฉันเต็มใจ” ฮันนาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มจางๆ
จากนั้นก็ผละกายออกมาจากอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น ความเจ็บซึ่งแผ่ซ่านที่ช่องทางรักด้านล่างทำให้เธอชะงักไปเล็กน้อย
“หม่อมฉันอยากอาบน้ำ” เธอเอ่ยบอกเขาเท่านั้น
ร่างกายกำยำเปลือยเปล่าก็ประทับยืนขึ้นแล้วโน้มลงมาช้อนร่างอรชรของเธอขึ้นไปไว้บนวงแขนแข็งแรง
จากนั้นก็พากันเดินไปยังห้องสรงน้ำอย่างไม่เร่งรีบ
ดวงเนตรทั้งสองสบประสานกับด้วยแววหวานและเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
ร่างสูงสง่าพาร่างน้อยลงมาในอ่างน้ำขนาดใหญ่
ซึ่งใส่น้ำเย็นเยียบเอาไว้จนเต็ม ร่างน้อยกอดเกาะวรองค์อบอุ่นไว้แน่นราวกับไม่อยากละห่างซักวินาที
ก่อนจะซุกใบหน้าหวานลงกับซอกคอแข็งแรง
ลมหายใจอ่อนร้อนทำให้ความซ่านไหวแผ่เข้าใส่ร่างกำยำอีกครา
พระหัตถ์หนาดันร่างน้อยออกช้าๆ พลางสบพระพักตร์งดงามด้วยแววตาอ่อนโยน
“ฝ่าบาทอาบน้ำให้หม่อมฉันบ่อยแล้ว ให้หม่อมฉันอาบน้ำให้ฝ่าบาทบ้างนะ” กษัตริย์หนุ่มตรัสด้วยน้ำเสียงอ่อนเบาระคนไปด้วยความซาบซึ้ง
ก่อนค่อยๆ วักน้ำใส่ลาดไหล่เล็กแล้วไล้แผ่วเบา
แต่ทว่าฝ่ามือร้อนที่เคลื่อนไหวด้วยความเชื่องช้านั้น ทำให้อารมณ์ขององค์หญิงตัวน้อยทะยานขึ้นอีกครั้ง
ดวงเนตรหวานหลับลงช้าๆ ก่อนจะกลืนน้ำลายหลายอึกด้วยความกระหายใคร่อยาก
ฝ่าพระหัตถ์เรียวเอื้อมไปบีบขยำลาดไหล่แข็งแรงของชายหนุ่มเพื่อระบายความรัญจวนให้บางเบาลง
แต่นั่นไม่ต่างอะไรจากการปลุกเล้าแรงสวาทให้พลุ่งพล่านมากยิ่งขึ้น
ทั้งสองพระองค์สบตากันอีกครั้งด้วยแววเย้ายวน
ก่อนร่างทั้งสองจะพุ่งเข้าใส่กันแล้วประกบปากแลกความเร่าร้อนด้วยลิ้นชื้น
มือเรียวจิกแน่นลงบนแผ่นหลังกำยำแผ่วเบาจนพบเข้ากับผ้าปิดแผลที่กำลังเปียกชื้นไปด้วยน้ำ
“ฝ่าบาท แผล!” ฮันนาผละออกมาแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นๆ
ไฟแห่งราคะทำให้เธอลืมว่าเขาไม่ควรลงมาอยู่ตรงนี้ เพราะอาจทำให้แผลอักเสบเอาได้
แต่ดูเหมือนเจ้าของมันจะไม่ใคร่สนใจสิ่งใดนัก
แขนแข็งแกร่งโอบรั้งร่างของเธอให้ลอยขึ้นเหนือผืนน้ำ พลางเอ่ย...
“ช่างแผลสิ” ก่อนพระโอษฐ์ร้อนจะโน้มลงไปดูดกลืนความหวานจากยอดอกชูชันของเธออย่างไม่ยับยั้งตัวเองอีกต่อไป
ฮันนาผวาเฮือกด้วยความเสียวกระสัน จากนั้นความรู้สึกนึกคิดของเธอก็เป็นอันมลายหายไปอีกครั้ง
นิ้วเรียวจิกลงบนเส้นผมนุ่มของกษัตริย์หนุ่มอย่างลืมเนื้อลืมตัวเพื่อระบายความรู้สึกที่อัดแน่น
“อ๊ะ ฝ่าบาท อื้อออ”
เสียงครางระงมดังลอดออกมาจากเรียวโอษฐ์บางอิ่มไม่ขาดสาย
พระพักตร์สวยงามเงยเชิดขึ้นพลางขบริมฝีปากล่างของตัวเองไว้ด้วยท่าทางเย้ายวน
เพียงแค่อึดใจเดียว
ร่างน้อยก็ถูกพลิกให้คว่ำหน้าลงแล้วเกาะแขนไว้กับขอบอ่าง ก่อนปลายพระนาสิกโด่งคมจะแตะไล้ลงบนแผ่นหลังขาวนวล
และไล่เลียขบดูดผิวเนื้อเนียนละเอียดไปจนทั่ว ฮันนาสะดุ้งไหวตัวทุกครั้งที่เขาเผลอเม้มผิวกายของเธอรุนแรงด้วยความลืมตัว
จนเกิดเป็นร่องรอยแห่งความรักประดับเอาไว้
มือหนาเอื้อมไปกอบกุมประทุมถันที่นุ่มหยุ่นทั้งสองข้างแล้วบีบเคล้นแผ่วเบาสลับหนักหน่วง
ในขณะที่อวัยวะแข็งร้อนค่อยๆ สอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกับวรองค์บอบบาง
“อื้อ ฝะ..ฝ่าบาท” ฮันนาครางกระเส่ายามส่วนหัวที่ผลิบานแทรกลึกครูดกับผนังร่างกายของเธอเข้ามาเรื่อยๆ
ความเสียวเกินจะบรรยายค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอีกครั้งจนต้องกัดฟันแน่นเพื่อระบายมันออกไป
แต่ก็ดูจะไม่ได้ผลนัก เมื่อชายหนุ่มขยับตัวเคลื่อนคลาดเชื่องช้าๆ
ทุกครั้งที่แก่นกลางกายของเขาขยับออกไปจนเกือบสุดเธอต้องดันสะโพกตามไปทุกครั้ง
ด้วยกลัวว่าท่อนร้อนๆ นั้นจะหลุดหลายไปก่อนที่ร่างกายของเธอจะทะยานถึงที่สุดแห่งอารมณ์
เสียงเนื้อกระทบกันค่อยๆ ทวีความดังขึ้น พร้อมกับมวลน้ำที่กระฉอกออกจากอ่างจนเจิ่งนองเต็มพื้น
พระหัตถ์แข็งแรงจับสะโพกผายคอดพอดีมือเอาไว้แล้วอัดวรกายกระแทกเข้าใส่ร่างน้อยอย่างหมดความอดทน
เสียงครางฮึมลอดออกมาจากพระโอษฐ์หยักลึกราวกับราชสีห์เจ้าป่าคำรามประกาศศักดาของตัวเอง
เพียงไม่นานจุดสิ้นสุดแห่งกามารมณ์ก็วิ่งพรูเข้ามา
ฮันนากระตุกเฮือกไปพร้อมๆ กับกษัตริย์หนุ่ม ทุดหยาดหยดของเขาถูกเก็บกลืนไว้ในกายของเธอจนล้นทะลักลงมาตามเรียวขานวลเนียน
เซนค่อยๆ ถอดอวัยวะของตนเองออกมา แล้วทอดมองสิ่งที่ตนเองทำเอาไว้ด้วยแววตาระริกไหว
น้ำสีขาวขุ่นทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัวจนแทบบ้า
ฮันนาทำท่าว่าจะขยับกายหันหน้ามาหาเขา แต่พระหัตถ์หน้าหยุดเธอเอาไว้
แล้วบรรจงทำความสะอาดช่องทางที่บวมแดงนิดๆ ด้วยความทะนุถนอม นิ้วยาวคว้านเข้าไปด้านในเพื่อกวาดต้อนเอาน้ำรักของตนเองออกมาจนหมด
แล้วจึงพลิกร่างน้อยมากอดเอาไว้เต็มอ้อมแขน
“เจ็บไหม” เขาเอ่ยถามอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง เธอจึงสายหน้าน้อยๆ
เป็นเชิงบอกว่าไม่เจ็บแล้ว หนำซ้ำเธอยังชอบมันมากๆ อีกด้วย
ชอบที่จะให้เขาสัมผัสกับเธอด้วยแรงอารมณ์ที่แปลกประหลาดน่าพิศวง
เธอชอบความรู้สึกยามที่ร่างกายของเขาสอดลึกเข้ามารวมกันเป็นหนึ่งเดียวกับกายของเธอ
ยังมีต่อในเว็บนะคะ อย่าลืมกลับไปอ่านและคอมเมเนต์เป็นกำลังใจให้เราอตณ์ด้วยน้า
ฟินไม่ฟินยังไงก็บอกกันบ้างนะคะ พลีสสสสส
Link : https://goo.gl/Mtyg3y
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น